โสมยาอายุวัฒนะที่ใช้กันมานับพันปี

โสมเป็นยาอายุวัฒนะที่ใช้กันมากในตำราแพทย์แผนจีนแบบดั้งเดิมมานับพันปี เพราะสามารถบำรุงร่างกายและรักษาโรคได้สารพัด โสมเป็นพืชยืนต้นที่มีรากขนาดใหญ่ มักมีรูปร่างเหมือนคน สามารถนำมาใช้ได้ทั้งรากหัว รากกกิ่ง รากฝอย ใบ ดอก และผล แต่คนนิยมนำรากมาใช้มากกว่าส่วนอื่นๆ

ปัจจุบันผู้คนหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้น เนื่องจากสภาวะสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษเพิ่มขึ้น และการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงนั้นต้องเริ่มจากภายใน จากคำว่า “You are what you eat ” และความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ ดังนั้นอาหารจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรดูแลเป็นอันดับต้นๆ ผู้คนในปัจจุบัน จึงสรรหาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรืออาหารบำรุงต่างๆ ไม่มีว่าจะเป็นวิตามิน เกลือแร่ น้ำมันปลา สมุนไพรต่างๆ และโสมก็เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่นิยมกันมาก ในหมู่คนรักสุขภาพ

หลายคนคงรู้ว่า เกาหลีเป็นประเทศที่ส่งออกโสมมากที่สุด โดย โสมเกาหลี แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ โสมขาวและ โสมแดง โสมขาว เป็นโสมที่มีการใช้รากแห้ง โดยใช้การตากแดด ส่วน โสมแดง ใช้การอบด้วยไอน้ำ ก่อนทำให้แห้ง โสมแดงจึงมีคุณภาพดีกว่าและแพงกว่าโสมขาว โสมเกาหลีนั้น รับประทานได้ไม่จำกัดช่วงเวลา เนื่องจากไม่ทำให้กระเพาะอาหารระคายเคือง แต่คนเกาหลี นอกจากจะรับประทานโสมเพื่อสุขภาพแล้ว ยังรับประทานเพื่อความอบอุ่น แต่เมืองไทยเป็นเมืองร้อน ดังนั้นการรับประทานโสม จึงมีข้อจำกัดที่ต่างออกไปเล็กน้อย แล้วแต่ความสะดวก ความชอบของแต่ละบุคคล แต่ที่นิยม มักผสมเจือจางผสมในน้ำสะอาดเพื่อสำหรับดื่ม

จากการวิจัยศึกษาทดลองพบว่าในโสม มีสารประกอบต่างๆ เช่น Saponin (ซาโปนิน), Malphenol ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์มากมาย อาทิ ช่วยบำรุงเลือด ทำให้ไหลเวียนได้ดี สดชื่นกระปรี้กระเปร่า ลดอาการอ่อนเพลีย อาการเครียด สามารถฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศในชาย ช่วยปรับระดับฮอร์โมน phytoestrogen ให้สมดุล เพื่อลดอาการวูบวบและอาการอื่นๆ ในสตรีหมดประจำเดือน ทำให้นอนหลับสนิท ช่วยในการสลายลิ่มเลือด กระตุ้นการเผาผลาญไขมัน  และลดการสะสมของไขมันในเลือด ชะลอความเสื่อมสภาพของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย ส่งผลให้ ระบบการทำงานของร่างกายทำงานได้สมบูรณ์ การวิจัยศึกษาและทดลองคุณสมบัติของโสมที่มีผลต่อสุขภาพของมนุษย์ยังมีการดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง

แต่อย่างไรก็ดี ถึงแม้โสมจะมีสรรพคุณที่มีประโยชน์มากมาย แต่การมีสุขภาพที่ดีนั้นมิได้ขึ้นอยู่กับอาหาร ยาหรือสมุนไพรชนิดใดชนิดหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นองค์ประกอบของการดำเนินชีวิต การกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ อย่างหลากหลาย และในปริมาณที่พอเพียง ออกกำลังกายตามความเหมาะสม และสุดท้ายต้องทำใจให้แจ่มใส่และเบิกบาน