จำหน่ายผลิตภัณฑ์โสม เขากวางอ่อน เกรดพรีเมี่ยมมากว่า 12 ปี ได้รับการรับรองมาตราฐานความปลอดภัย ISO, FDA, GMP

โทรศัพท์ 065 546 2588

วิธีกินโสมเกาหลีและข้อควรระวัง

โสมเป็นพืชสมุนไพรที่มีความปลอดภัยมากที่สุด ถึงแม้บริโภคในปริมาณที่มากหรือบริโภคติดต่อกันตลอดก็ตาม ผลการทดลองจากทั่วโลกต่างยอมรับว่าไม่มีอันตรายเลย แม้แต่องค์การอาหารและยาของสหรัฐยังยอมรับว่าโสมเป็นยาที่มีความปลอดภัยสูงสามารถจำหน่ายได้อย่างเสรีโดยไม่จำเป็นต้องมีกฎระเบียบควบคุม

วิธีทานนั้นก็จะแตกต่างกันในแต่ละประเภทของการแปรรูป ในเบื้องต้นสำหรับคนที่ไม่เคยทานโสมมาก่อน หรือเคยทานแต่หยุดทานนานแล้ว  หากต้องการกลับมาทานโสมอีกครั้ง ควรทานจากน้อยไปหามาก ช่วง สัปดาห์แรกควรทานปรมาณน้อยๆก่อน เพื่อให้ร่างกายปรับตัวก่อน แล้วค่อยเพิ่มปริมาณมากขึ้นตามความเหมาะสม และควรดื่มน้ำให้มากๆในระหว่างวัน เพราะน้ำเป็นปัจจัยหลักสำคัญมาก ในการทานยา สมุนไพร ต่างๆ ทุกอย่าง

หากทานไปแล้วร้อน ? อย่าตกใจ !
ให้ลดปริมาณลง แล้วดื่มน้ำตามเยอะๆ 

ทานโสมแล้วไม่รู้สึกอะไรเลยในกรณีนี้ มีข้อสันนิฐานว่า ลำไส้มีปัญหาเรื่องการย่อยทานแล้วร่างกายย่อยโสมไม่ได้ ก็ไม่เกิดผล วิธีแก้คือ ต้องดีท็อก ร่างกายเท่านั้น แล้วค่อยเริ่มทานโสมต่อไป

สอง คือ ร่างกายปรับตัวรับกับสมุนไพรชนิดนี้ได้เร็ว และสุขภาพแข็งแรงดี สุขภาพแข็งแรงดีควรทานโสมหรือไม่ ? ควรทานเพื่อการบำรุง ร่างกาย แต่ไม่ต้องทานเยอะ ข้อดีของการทานโสมเพื่อบำรุงร่างกายเป็นระยะเวลานาน 10 ถึง 20 ปีนั้นจะสังเกตได้ว่าบุคคลนั้นจะไม่ค่อยป่วย  หรือ ถ้าป่วยก็จะหายจากอาการป่วยเร็วกว่าปกติ เพราะร่างกายและอวัยวะนั้นเสื่อมโทรมไปตามอายุ อายุที่มากขึ้นส่งผลให้อวัยวะต่างๆในร่างกายทำงานได้ช้าลงและผิดปกติ จึงเป็นข้อจำเป็นอย่างยิ่งในการทานโสมเพื่อบำรุงร่างกายเป็นประจำนั่น

ทานโสมแล้วนอนไม่หลับควรทานอย่างไร ? 

ให้เลือกทานโสมช่วงเวลาเช้า ก่อน อาหาร 1 ชั่วโมง จะส่งผลให้เราสดชื่นตลอดวัน ทำงาน ได้นานขึ้น(หากรู้สึกอ่อนล้าพักผ่อนน้อย ก็สามารถทานเพิ่มได้อีก) ไม่ควรทานก่อนนอน

ทานโสมแล้วทำไมถึงรู้สึกมึนๆ เวียนหัว ? 

เพราะโสมมีซาโปนินช่วยชะล้างไขมันในเลือดช่วยให้เลือดฉูบฉีดเร็ว หรือทำความสะอาดหลอดเลือด เมื่อร่างกายได้รับการเปลี่ยนแปลงจึงทำให้เกิดอาการมึนและเวียนหัวได้ วิธีแก้ ทานน้อยๆ ก่อน ค่อยๆทานต่อเนื่อง ประมาณ 2 สัปดาห์ อาการนี้จะดีขึ้น อาการนี้จะดีขึ้นเร็วหรือช้านั้นขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลด้วยเช่นกัน

วิธีทานโสมตามลักษณะการแปรรูป 

  1. หัวสกัดโสมเกาหลี ทั้งโสมขาว และโสมแดง ใช้ช้อนตักที่มากับกล่องตักชงกับน้ำอุ่นๆ หนึ่ง ถ้วยกาแฟ หรือประมาณ 150-200 ml จะชงมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับความชอบ ชอบแบบจางๆ ชง ครึ่งช้อน ชอบแบบข้นๆ หน่อย ก็ชงหนึ่งช้อน สามารถเติมน้ำผึ้ง เพิ่มความหวานได้ตามใจชอบ ทานตอนท้องว่าง ก่อนอาหาร หรือหลังอาหาร 1 ชั่วโมง สำหรับผู้ที่ต้องเดินทาง สามารถชงเก็บ ใส่กระติกเก็บอุณหภูมิ ไว้พกพาไปได้ทุกที่ เปิดกระติกจิบระหว่างวันได้ ตามสะดวก
  2. แคปซูลโสมแบบผง รูปแบบการทานไม่ต่างจากหัวสกัดทานวันละ 1 ถึง 2 แคปซูล  ก่อนอาหารหรือหลังอาหารหรือ 1 ชั่วโมง หลังจากทานแล้วต้องสังเกตตนเองว่าทานแล้ว ง่วง หรือทานแล้วสดชื่น หากทานแล้วง่วงแนะนำให้ทานก่อนนอน หากทานแล้ว สดชื่น ก็ทานตอนเช้า หรือ ทานที่รู้ง่วง ระหว่างทำงานก็ได้ 1-2 แคปซูล แต่ก็มีบางท่าน ชอบแกะแคปซูลผงละลาย กับน้ำอุ่นๆ หรือชงผสมกับกาแฟ ก็มี แบบนี้ก็ทานได้เช่นกัน
  3. ซอฟท์แคปซูล เป็นโสมเทคโนโลยีแบบใหม่ ตัวนี้ ทานแล้ว ร่างกายจะไม่รู้สึกร้อนหรือมีเอฟเฟ็กใดๆเลย ไม่ว่าจะทานมากหรือน้อย แต่จะเกิดผลโดยที่ร่างกายไม่ต้องปรับตัว  หมดปัญหาที่ต้องเริ่มต้นทานน้อยๆ ไปได้เลย เพราะ ทานเข้าไปแล้ว ร่างดูดซึมใช้ได้เลย ไม่ต้องผ่านกระบวนการเมตาบอริซึม จึงเหมาะ กับทุกเพศทุกวัย ทุกอาการ ทานวัน ละ 2-3 แคปซูล ถ้าต้องการทานเพื่อบำรุง ทานวันละ 2 แคปซูล หากต้องการให้เกิดผลเร็ว ก็สามารถทานมากกว่า 2 แคปซูล
  4. ชาโสมเกาหลี ตัวนี้คนเอเชียชอบ เพราะมีรสหวานจากกลูโคส สามารถฉีกซองละลายน้ำ ได้ทั้งร้อนและเย็น 1 ซอง มี 3 กรัม ต่อ น้ำ 1 แก้ว ดื่มได้ทุกช่วงเวลา ที่ต้องการ เหมือนกานดื่มชาทั่วไป
  5. รากโสมอบน้ำผึ้ง หั่นเป็นแผ่นๆ หยิบเคี้ยวกินเหมือนทานขนมได้เลย หรืออมไว้ชุมคอดี มีรสขมหวาน อร่อยเพลินมาก ปริมาณสามารถทานได้ ไม่จำกัด แต่ทานมากไปจะร้อนได้ค่ะ ทาน 5-10 แผ่นต่อวันก็พอ
  6. รากโสมแห้ง วิธีเดียวคือต้มดื่มน้ำ แต่วิธีการเลือนหายไป เพราะ ความร้อนทำให้ซาโปนินในโสมบางชนิด เสื่อมไป และไม่ค่อยสะดวกในการทานมากนัก จึงไม่ค่อยนิยมกันในสมัยปัจจุบัน

ทุกวิธีในการทาน การดื่มน้ำเป็นปัจจัยสำคัญมาก ในระหว่างวันควรดื่มน้ำ 2 ลิตร ต่อวัน

Side Effect หลังทานโสมเกาหลี

อาการที่อาจเกิดขึ้นหลังจากการทานโสมเกาหลี ปฎิกิริยาเม็งเค่น (อาการฟื้นจากความเจ็บป่วย) คืออาการชั่วคราวที่เกิดขึ้น เป็นอาการที่บ่งบอกถึงความเจ็บป่วยกำลังได้รับการบำบัด และจะฟื้นคืนสู่สภาพปกติซึ่งแต่ละคนจะเกิดอาการที่แตกต่างกันไป บางคนก็ไม่เกิดอาการเลยก็มี ซึ่งอาการเหล่านี้มักมีผู้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นอาการแพ้โสม หรือเป็นอาการข้างเคียงตัวอย่างที่อาจเกิดขึ้น เช่น คลื่นไส้ มีจุดแดงเกิดขึ้นตามร่างกาย มึนศรีษะ คล้ายอาการท้องเสีย คันเนื้อคันตัวคล้ายเป็นไข เป็นต้น อาการเหล่านี้บ่งบอกให้รู้ว่า ร่างกายกำลังถูกปรับสภาพโดยสารพิษจะถูกขับออกจากร่างกาย ท่านอย่าตกใจจนต้องเลิกทานโสม ท่านควรจะดื่มน้ำมากๆและทานโสมต่อไปอย่างปกติ แต่ให้ลดปริมาณลง อาการที่เกิดขึ้นจะค่อยๆ หายไปซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *